" ปัญหาหลุมสิว หลุมแผลเป็น ปัญหาที่รักษาได้ยากปัญหาหนึ่ง "
แต่ดีขึ้นได้จากสูตร Combined Acne Scar ของ Truetrust clinic เพียงครั้งแรกจะเห็นผลได้ดีขึ้น
หลุมสิวเกิดจากอะไร ?
หลุมสิว หรือหลุมแผลเป็นมักจะเกิดจากการที่เนื้อเยื่อชั้นผิวถูกทำลาย หรือพังพืดรัดใต้ผิว ซึ่งจะเกิดจากกระบวนการอักเสบ มักจะเกิดกับคนที่มีสิวเป็นหัวหนองมากกว่าสิวอุดตัน หรือเกิดจากสุกใส หรือการเป็นแผลลึก หรือขนาดใหญ่มากกว่า 0.5 ซม. การเกิดหลุมสิวไม่ได้เกิดจากการกด หรือฉีดสิวอย่างแน่นอน หากการกดนั้นเป็นการกดสิวออกมาจนหมด ก็จะไม่ก่อให้เกิดการอักเสบ และการฉีดสิวหากเป็นหลุมหลังจากการฉีดจะเกิดจากภาวะไขมันใต้ผิวถูกทำลายและเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น จากนั้นชั้นไขมันจะผลิตกลับมาตามปกติ
การรักษาหลุมสิว ต้องเริ่มจากการตรวจวิเคราะห์ก่อนค่ะ ว่าหลุมสิวชนิดนั้นเกิดจากสาเหตุใด ?
เพราะวิธีการรักษาก็ต่างกันไป หลุมสิว หรือหลุมแผลเป็นต่างๆ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
1. ice pick scar
ลักษณะเป็นหลุมลึก ปากแคบ อันนี้รักษายากสุดนะคะ
2. Box scar
ลักษณะเป็นหลุมปากกว้าง ขอบตัด คล้ายกล่อง 4 เหลี่ยม
3. Rolling scar
ลักษณะเป็นหลุม ขอบไม่ชัด ปากกว้าง
การรักษาก็มีหลายประเภทเช่นเดียวกัน
1. Fractional CO2
เลเซอร์ชนิดนี้จะทำให้เกิดการสร้างใหม่ที่บริเวณปากหลุม ทำให้ขอบดูตื้นขึ้นได้ จากการกระตุ้นให้เกิดแผลเล็กๆและให้ร่างกายสร้างเนื้อเยื่อใหม่มาทดแทน โดยให้โตมามากกว่าขอบแผลเดิม เพราะฉะนั้นเทคนิคการใช้เลเซอร์ชนิดนี้จะค่อนข้างสำคัญและแม่นยำมากในแต่ละหลุม จะไม่ได้วาง pattern ในการ stamp ทิปไปทั่วๆอย่างเดียว เหมาะกับหลุมสิวชนิด Box scar, ice pick scar
2. Fractional RF
คลื่นความถี่วิทยุชนิดนี้จะออกมาเป็นจุดเล็กๆ เพื่อให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อชั้นล่างหลุมสิว ทำให้คอลลาเจนหดแน่น กระชับ และสร้างใหม่ หลุมสิวดูตื้นขึ้นจากภายใน รูขุมขนกระชับ ผิวดูเนียนกระจ่างใสขึ้น โดยทำให้เกิดรอยดำหลังเลเซอร์น้อยเมื่อเทียบกับเลเซอร์ทั่วไป เหมาะกับหลุมสิวชนิด Box scar, ice pick scar
3. Subcision
เป็นการตัดพังผืดที่ดึงรั้งให้เกิดหลุมด้านในออก เหมาะกับหลุมสิวชนิด Rolling scar
4. GF, PGF, Rejuran Plus และ Sculptra
กลุ่มยาประเภทเสริมสร้างการสร้างเนื้อเยื่อ GF, PGF ,Rejuran Plus และ Sculptra ควรทำควบคู่กับเลเซอร์ เนื่องจากเมื่อมีการทำให้เกิดแผลเล็กๆใต้ผิวโดยเลเซอร์แล้ว จะช่วยเสริมการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นชัดเจน
5. โปรแกรม Filler หลุมสิว
การใช้อนุพันธ์ของ Hyaluronic acid ซึ่งเป็นสารเติมเต็มชนิดสลายได้ เพื่อเติมหลุมสิวให้เต็มขึ้น ข้อดีคือ ให้ผลลัพธ์ที่ดีในการเติมเต็มในครั้งเดียว เหมาะกับการรักษาแบบเร่งด่วน แต่ต้องทำซ้ำทุกปี เนื่องจากฟิลเลอร์จะค่อยๆสลายไป
การรักษาส่วนมากจะแนะนำเป็นการรักษาร่วมกันทั้ง Fractional CO2 , Fractional RF, และกล่มยาที่กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อจะได้ประสิทธิภาพสูงสุด ส่วนการทำ Subcision นั้นจะขึ้นกับว่าคนไข้มีกี่จุดไม่จำเป็นต้องทำทั้งหน้า ซึ่งโดยปกติหมอจะแนะนำให้ทำเป็นโปรแกรม combined acne scar และอาจจะมีการ add ในการรักษาที่บางท่านอาจจะมีปัญหาหลุมสิวที่เฉพาะเจาะจง
ในการรักษาหลุมสิว ที่สำคัญที่หมอห่วงมากๆคือการหลบเลี่ยงแสงแดดหลังทำ Fractional CO2 และ Fractional RF เนื่องจากเราต้องยอมรับว่าประเทศไทยแสงแดดค่อนข้างจัด UV index ของเราสูงมาก และ skin type (ชนิดของผิว) ของคนไทยจะอยู่ในระดับ 3-4 เป็นส่วนมาก ซึ่งสามารถเกิดรอยดำหลังเลเซอร์ได้อยู่แล้ว ถึงแม้จะไม่ได้รับแสงแดดที่จัด แต่ถ้าเราสามารถหลีกเลี่ยงแสงแดดหลังการรักษาได้จะทำให้ความเสี่ยงในการเป็นรอยดำน้อยลง หมอจึงแนะนำว่า หากเป็นไปได้ ไม่ควรทำการรักษา Fractional CO2 และ RF ในช่วงเดือนมีนาคม และเมษายนของทุกปี และถ้าหากหลีกเลี่ยงแสงแดดไม่ได้ ไม่แนะนำให้ทำการรักษาดังกล่าว อาจจะต้องพิจารณาการใช้วิธีอื่นๆทดแทน ซึ่งผลการรักษาอาจจะไม่สามารถเทียบเท่าได้ แต่ดีกว่าเป็นรอยดำค่ะ
หลังการรักษาควรปฏิบัติตัวอย่างไร
- หลีกเลี่ยงแดดจัด แนะนำให้อยู่ในที่ร่ม หากมีกระจกแนะนำให้ปิดม่าน หากมีเหตุที่ต้องออกไปข้างนอกในตอนกลางวัน ไม่ว่าจะมีแดดหรือไม่มีจะมี UV เสมอ ใส่ mask ใส่หมวก กางร่ม (ในกรณีการทำ Fractional CO2 และ RF)
- ทายาและกันแดดตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด (ในกรณีการทำ Fractional CO2 และ RF)
- ห้ามแกะ เกา สะเก็ดแผล ควรปล่อยให้หลุดเองตามธรรมชาติเพื่อผลการรักษาที่ดีที่สุด (ในกรณีการทำ Fractional CO2 และ RF)
- ล้างหน้าด้วยน้ำเกลือ sterile จนกว่าสะเก็ดจะหลุด (ในกรณีการทำ Fractional CO2 และ RF)
- การทำ Subcision มักมีรอยบวมช้ำหลังทำ จะสามารถหายไปได้เองใน 2-4 สัปดาห์
- เพื่อผลการรักษาที่ดี ควรทำการรักษาต่อเนื่อง โดยกลุ่ม Fractional CO2 และ RF 1.5-2 เดือนต่อครั้ง และกลุ่มกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อ 1-4 สัปดาห์ต่อครั้ง ขึ้นกับการประเมินของแพทย์
- งดใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มการผลัดเซลล์ผิว ยารักษาสิวบางตัว การสครับหน้า และยาที่ก่อให้เกิดการระคายผิว เช่น AHA, BHA, Vitamin C เข้มข้น, Benzoyl Peroxide
Testimonial & Reviews
Q&A
หากเป็นรอยดำหลังเลเซอร์ หมอแนะนำให้ทำเป็นการลดเม็ดสีเช่น PGF , GF, mesoaurawhite หรือ หากทำเป็นกลุ่มเลเซอร์ลดรอยจะต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดให้ได้ มิฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงค่ะ
ถ้าใช้เป็นวิธี Combined acne scar หลุมสิวที่รักษาไปนั้นคือเนื้อเยื่อของเราที่สร้างใหม่เลย จะดีขึ้นแล้วดีขึ้นเลยค่ะ แต่หากใช้เป็นโปรแกรม HAFiller จะกลับสู่สภาพเดิมได้ เมื่อโปรแกรม HAFiller สลายไปหมด โดยเฉลี่ย 1-2 ปีค่ะ
หมอต้องขอตอบตรงๆว่าไม่ได้ 100% ค่ะ แต่จะทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้นได้ระดับหนึ่ง โดยปกติจะให้ผลลัพธ์ที่ดีเกินครึ่ง ต่อการรักษา 5-10 ครั้ง ขึ้นกับว่าทำการรักษาโดยเทคนิคใด
ไม่ได้แน่นอนค่ะ skin care หลักๆจะช่วยในเรื่องความชุ่มชื้นเพื่อให้ผิวแข็งแรงขึ้นค่ะ จะมีครีมบางจำพวกที่ทำให้หลุมสิวตื้นได้ชั่วคราว เช่น ครีมที่มีส่วนผสมของ silicone ที่ช่วยพรางหลุมสิว เมื่อล้างออกก็จะหายไป