เกิดแน่นอนค่ะ  แต่ไม่ใช่พังผืดที่ทำให้เนื้อบุ๋มลงไปนะคะ แต่พังผืดที่เกิดขึ้นคือพังผืดชนิดดี คือ collagen type 1 และ 3 นั่นเองค่ะ ซึ่งจะทำให้มีร่างแหสานเป็นโครงสร้างเส้นใยที่แน่นขึ้น ให้ผิวยึดเกาะ เพื่อให้เกิดการยกกระชับนั่นเอง และนอกจากนี้จริงๆแล้วจะทำให้รูขุมขนกระชับ ผิวหนาขึ้น จากการสร้างคอลลาเจน 2 ชนิดนี้ด้วยค่ะ 

หมอแนะนำการใช้ผสมชนิดกัน เพื่อเอาข้อดีของแต่ละชนิดไหมมาแก้ไขในแต่ละจุดค่ะ โดยประเมินจากปัญหาของแต่ละบุคคลเป็นหลัก

ปกติประมาณ 6-24 เดือนค่ะ มีมากกว่านี้ และน้อยกว่านี้ ขึ้นกับปัจจัยข้างต้นที่หมออธิบายไป ไม่ว่าจะเป็นอายุ อัตราการสร้างคอลลาเจน อัตราการทำลายคอลลาเจน การสูบบุหรี่ life style ของแต่ละบุคคลด้วยค่ะ 
ทำซ้ำได้เมื่อ 1 เดือนขึ้นไป ในเคสที่เป็นคนดูแลตัวเอง ไม่อยากให้มีความหย่อนคล้อย อาจจะเก็บข้างละ 1-2 เส้นทุกๆ 2-3 เดือน แต่โดยปกติที่ร้อยซ้ำแบบทั่วหน้าจะประมาณ 1 ปี ครั้งค่ะ 

ปกติในเทคนิค double lock ที่หมอใช้ จะใช้ไหมเยอะกว่าเทคนิคทั่วไป 2 เท่า คือโดยเฉลี่ย10-14 เส้น เนื่องจากเราต้องล็อค 2 ชั้น แต่สำหรับท่านที่ชอบคมๆ แน่นๆ หรือใช้หน้าหน้ากล้องส่วนมากจะใช้ 16-20 เส้นค่ะ 

หายบางส่วนค่ะ ที่ไม่หายทั้งหมดเนื่องจากการเกิดร่องแก้มไม่ได้เกิดจากเส้นเอ็นที่ดึงหน้าหย่อนคล้อยเพียงอย่างเดียว  อีกสาเหตุหนึ่งคือกระดูกและไขมันยุบตัวลง วิธีการแก้ร่องแก้มจึงอาจจะต้องใช้หลายวิธี combined กันค่ะ 

ปกติจะพบอาการบวมมากกว่าค่ะ อาการช้ำมักจะเกิดกับคนที่ช้ำง่าย หรือทานวิตามินหรือยาบางชนิด อาการจะบวมช้ำมากที่สุดวันที่ 3-4 และจากนั้นจะค่อยๆยุบบวมลงเรื่อยๆ คนที่บวมมากอาจจะพบอาการบวมมาที่เปลือกตา ใต้ตาได้ อาการเหล่านี้จะหายไปเองไม่ต้องกังวลค่ะ แนะนำให้ประคบเย็นบ่อยๆ นอนศรีษะสูง งดอาหารที่มีโซเดียมสูง 

จริงๆความเจ็บจะขึ้นกับความอดทนของแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปจะบอกว่าเจ็บน้อยค่ะ เนื่องจากเราจะมีการฉีดยาชา และมาส์กยาชาค่ะ แต่อาจจะมีอาการระบมหลังทำได้ค่ะ 

หน้าจะไม่หย่อนกว่าเดิมเนื่องจากเราร้อยไหมค่ะ จริงๆการร้อยไหมเป็นการชะลอการหย่อนคล้อยตามวัยด้วยซ้ำ ทำให้หย่อนคล้อยช้ากว่าวัยอันควร แต่ที่รู้สึกว่าหน้าคล้อยลงส่วนมากจะเป็นจาก aging process หรืออายุที่มากขึ้นนั่นเองค่ะ

หากเป็นการทำหัตถการต่างๆในคนละตำแหน่ง สามารถทำได้แบบไม่ส่งผลต่อกันและกันค่ะ แต่ถ้าในตำแหน่งเดียวกันจะไม่แนะนำให้ทำร้อยไหมพร้อมกับโปรแกรมสลายไขมัน เนื่องจากจะทำให้เกิดการยึดเกาะที่ไม่ดีและผิดตำแหน่งได้ค่ะ ส่วนโปรแกรมฟิลเลอร์ และโปรแกรมโบท็อกซ์ สามารถทำได้ค่ะ

สามารถทำได้ค่ะ ไหมที่เราใช้นำเข้าจากบริษัทและผ่านการรับรองอย่างถูกต้อง สามารถเข้าเครื่องอะไรก็ได้ ไม่มีผลใด ๆ ค่ะ

1. ยักคิ้วไม่ขึ้น ปากยิ้มไม่เท่ากัน มักพบในช่วง 4-5 ชม. แรก เนื่องจากเป็นผลจากยาชา เส้นประสาทที่ได้รับการระงับความเจ็บปวดยังกลับมาทำงานได้ไม่เต็มที่ หลังจาก 4-5 ชม. จะค่อยๆกลับไปเป็นปกติ 

2. บวม มักจะพบบริเวณขมับมากกว่าช่วงแก้ม แนะนำให้ประคบเย็นช่วงขมับเยอะๆ นอนศรีษะสูง งดโซเดียม เพื่อให้อาการบวมลดลงไว บางท่านเป็นคนบวมง่าย อาจจะบวมมาที่ใต้ตาได้ สามารถประคบใต้ตาได้เลยค่ะ 

3. ระบมหลังทำ เกิดขึ้นได้บ่อยมาก เนื่องจากเรามีการรบกวนใต้ผิว หมอเองจะให้ยาแก้ปวดเผื่อไว้แล้ว แนะนำให้ทานไว้ก่อนใน 3-4 วันแรก หากหลังจากนี้ไม่ค่อยมีอาการปวดแล้ว ไม่จำเป็นต้องทานได้ค่ะ 

4. ช้ำ ปกติจะพบที่รูเปิดของเข็มเข้า ไม่ได้เป็นทั้งแนวที่ร้อยไหม สามารถหายเองได้ใน 7-14 วัน 

5. ผิวเป็นคลื่น อาจจะพบได้ในช่วงแรก 1-2 สัปดาห์ และอาการจะดีขึ้นเรื่อยๆ เกิดจากการที่ผิวบวมยาชาและเนื้อเยื่อในบริเวณระหว่างที่ไหมพาดอยู่ พออาการบวมน้อยลงเป็นปกติ จะไม่เห็นผิวเป็นคลื่นค่ะ 

6. เสียงดังใต้ผิว ขณะที่มีการขยับหน้า เกิดจากการที่ไหมไม่ได้มีความยืดหยุ่น แต่ action ของใบหน้ามากเกินกว่าที่ไหมจะลอคไว้ได้ เลยเกิดการเคลื่อน ไม่แนะนำให้ขยับหน้ามากนักในช่วง 1 เดือนแรก เนื่องจากไหมยังไม่สามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้อย่างเต็มที่ 

1. บวม แดง มีหนอง  

2. ปลายไหมโผล่ที่จุดเข้า 

3. รอยบุ๋มที่ผิวหนังมากกว่า 2 สัปดาห์