Program Sculptra
Plant-Based Collagen Biostimulator
ยกกระชับใบหน้า เน้นการสร้าง Collagen ใหม่ รูขุมขนกระชับ
ยาจากบริษัทนำเข้าถูกต้องตามกฏหมาย เทคนิคการฉีดยกอย่างตรงจุด สามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้มากถึง 66.5% และยาวนานมากถึง 2 ปี
Program Sculptra หน้ายก แถมฟรีผิวดีอีกด้วย
คืออะไร?
plant-based Biostimulator ที่เรียกว่า Poly L Lactic Acid สารสกัดจากพืชซึ่งช่วยกระตุ้นเซลล์ให้สร้าง collagen ชนิดที่ 1 (หรือคอลลาเจนเด็ก)
ทำไมต้องกระตุ้น?
เพราะเมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป Fibroblast (เซลล์ที่สร้างคอลลาเจน) จะทำงานน้อยลง ผิว aging จึงบางลง ยืดหยุ่นน้อยลง หย่อนลง ระคายเคืองง่ายขึ้น
เหมาะกับใคร?
ที่แนะนำคือคนที่อายุ 30 ปีขึ้นไป ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อย ผิวมีความ aging ยืดหยุ่นน้อยลง จะเห็นผลชัดเจน
ผลที่ได้คือ?
ความยกกระชับ ผิวที่ฟู แน่นขึ้น แข็งแรงขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น หลุมสิวตื้นขึ้น
เห็นผลเมื่อไหร่?
เริ่มสังเกตได้ที่ 2-4 สัปดาห์ เต็มที่ 1-2 ปี
อันตรายมั้ย?
ปลอดภัยมาก FDA approved จากอเมริกา จากผลงานวิจัยกว่า 20 ปี ไม่พบผลข้างเคียงที่รุนแรง ที่พบบ่อยมากที่สุดคืออาการเจ็บใต้ผิวหลังฉีด 4-5 วัน, บวมช้ำทั่วไป รองลงมาคือก้อนเล็กๆใต้ผิว ซึ่งเกิดได้น้อยมาก สามารถนวดเพื่อรักษาได้
ทำไมต้องฉีดที่ Truetrust clinic?
เพราะเราเป็น 100 คลินิกแรกในประเทศไทยที่ได้รับเชิญให้อบรมเทคนิคการฉีดจากบริษัท Galderma ซึ่งเป็นบริษัทที่นำเข้า Sculptra และได้รับ Certificate ในเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง ร่วมกับประสบการณ์การฉีดและการ design รูปหน้ากว่า 10 ปี ทำให้มั่นใจได้เลยว่าเรา Design รูปหน้าให้คุณได้ย้อนวัยสมใจแน่นอน
โปรแกรม Sculptra ที่ Truetrust clinic แตกต่างจากที่อื่นอย่างไร
- ยาทุกกล่องสามารถเช็คได้ว่าได้รับการนำเข้าจากบริษัท Galderma อย่างถูกต้อง
- แพทย์ผ่านการ training โดยตรงจากบริษัท Galderma
- มีการ Design รูปหน้าก่อนทุกเคส เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- Firm-Lift technique เทคนิคเฉพาะของ Truetrust clinic ปรับทรงหน้าให้ละมุนขึ้น ปริมาณยาที่แนะนำในการฉีดโปรแกรม Sculptra
- ทุกๆอายุ 10 ปี = 1 vial ยกตัวอย่างเช่น เคสอายุ 30 ปี แนะนำที่ 3 vials (30 cc.)
- ที่ Truetrust clinic จะใช้เทคนิค Firm-Lift ครั้งแรกจะใช้ที่ 2 vials (20 cc.) และฉีดซ้ำที่ 1 เดือนอีก 1-2 vials (10-20 cc.) ขึ้นกับแต่ละเคส
หลังจากฉีดโปรแกรม Sculptra ดูแลอย่างไร
- สามารถล้างหน้า ทา skin care ได้ตามปกติ
- งดแต่งหน้า ดำน้ำลึก ซาวน่า สตรีม ว่ายน้ำ 24 ชม. หลังเสร็จหัตถการ
- นวดหน้า 5 นาที 5 เวลา/วัน เป็นเวลา 5 วัน เพื่อให้ตัวยากระจายและทำงานได้ดีขึ้น
- งดการทำหัตถการอื่น 4 สัปดาห์หลังฉีดโปรแกรม Sculptra
ข้อห้ามในการฉีดโปรแกรม Sculptra
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ห้ามใช้ในผู้ที่มีประวัติแพ้ส่วนประกอบของ Sculptra ได้แก่ Poly-L-lactic acid (PLLA), Carboxymethylcellulose (CMC) , Non-pyrogenic mannitol
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง (Autoimmune, SLE)
- ผู้ที่ใช้ยาในยากดภูมิคุ้มกัน
- ผู้ที่มีประวัติเคยแพ้ชนิดรุนแรง (Anaphylaxis)
- ผู้ที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนังหรือเกิดการอักเสบในตำแหน่งที่ทำ
โปรแกรม Sculptra เหมือน โปรแกรม Filler มั้ย?
ไม่เหมือนค่ะ เนื่องจากโปรแกรม Sculptra จะมีกระบวนการในการออกฤทธิ์โดยกระตุ้นการสร้าง Collagen ใหม่ ส่วน โปรแกรม Filler จะใช้กระบวนการในการเพิ่ม Hyaluronic acid สังเคราะห์เข้าไป จึงทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ต่างกันดังนี้
- โปรแกรม Sculptra จะเพิ่ม Volume ของใบหน้าจากการที่ผิวหนังชั้นหนังแท้หนาตัวขึ้น หรือเรียกว่า Dermal thickening ซึ่งจะเป็นผลที่อยู่ในระยะยาว เนื่องจากร่างกายของเราสร้างขึ้นมาเอง จะดูเป็นธรรมชาติมาก และใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือน หลังรับการรักษา ส่วนโปรแกรม Filler จะเพิ่ม Volume จากการเติม Hyaluronic acid (HA) เมื่อเวลาผ่านไปจะสลายไปเองตามธรรมชาติ ผลของการเพิ่ม Volume จะเห็นผลทันทีหลังฉีด
- โปรแกรม Sculptra จะช่วยยกกระชับใบหน้าจากการสร้าง collagen ของเราใหม่ แต่หากเราต้องการยกหน้าด้วยโปรแกรม Filler จะใช้หลักการ Bone-like หรือเติมในตำแหน่งที่กระดูกกร่อนไปจากอายุที่เพิ่มขึ้น
- โปรแกรม Sculptra จะทำให้ผิวดีขึ้นจาก collagen ที่สร้างเพิ่มขึ้น ส่วน โปรแกรม Filler จะต้องใช้เป็นตัว Skin booster เพิ่มเพิ่มตัว HA เข้าไปให้ผิวอุ้มน้ำ
Testimonial & Reviews
PROMOTIONS OF MONTH
Q&A
ต้องบอกแบบนี้ค่ะ เนื่องจากตัวยามีหน้าที่ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน จึงทำให้โครงสร้างของผิวกลับมาแน่นขึ้น เลยส่งผลให้เหมือนผิวกลับมาย้อนวัยอีกครั้ง จะได้ทั้งยกกระชับและผิวดูดีขึ้นค่ะ
อาจจะไม่ได้เห็นผลยกกระชับที่ชัดเจน แต่จะได้ในคุณภาพผิวที่ดีขึ้นมากกว่าค่ะ อย่างไรแนะนำฉีดครบตาม dose ที่แนะนำเพื่อประสิทธิภาพที่สูงที่สุดค่ะ
แนะนำครั้งละ 2 vials มากที่สุดค่ะ เพราะมากกว่านี้อาจจะเกิดอาการบวมยาหลังจากฉีดเยอะได้ แต่อย่างไรก็ตามหมอแนะนำว่าอาจจะปรับได้ตามแต่ละเคสไปค่ะ
เนื่องจากตัวยาผลิตจากพืช เป็น plant-based โดยตรง และโมเลกุลของตัวยาจะเสถียรมาก ต้องคัดเลือกจากพืชหลายเอเคอร์เพื่อสกัดเข้ามาในแต่ละ vial และผ่านการ purified ที่บริสุทธิ์ นอกจากนั้นทีมแพทย์ของเรายังต้องเข้ารับการอบรมเทคนิคทั้งในและต่างประเทศเพื่อให้การฉีดที่เห็นผลสูงสุดและปลอดภัยกับคนไข้มากที่สุดด้วยค่ะ